หมาตายบนเที่ยวบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ ข้างหลังโดนจับใส่ช่องเก็บของเหนือหัว
หมาจำพวกเฟรนช์บูลด็อกตัวหนึ่งถูกตายลงในเที่ยวบินของสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ ขณะกำลังเดินทางจากเมืองฮิวสตันไปยังนครนิวยอร์กของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันจันทร์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา (12 มี.ค.) ภายหลังพนักงานที่มีหน้าที่สำหรับต้อนรับบนเรือบินสั่งให้ผู้โดยสารนำกระเป๋าที่มีหมาตัวดังกล่าวข้างต้นอยู่ภายใน ใส่ช่องเก็บสัมภาระเหนือหัวจวบจนกระทั่งกำลังจะถึงจุดหมายปลายทาง
jumbo jili
นางสาวแม็กกี เกรมไม่งเกอร์ ผู้โดยสารอีกคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ข้างหลังผู้ครอบครองหมาโชคร้ายดังที่กล่าวถึงแล้วพูดว่า ตนได้มองเห็นเหตุที่เกิดขึ้นโดยตลอด “ฉันมองเห็นบุคลากรของสายการบิน สั่งให้สตรีคนนั้นเอากระเป๋าที่มีหมาซึ่งยังมีชีวิตอยู่ด้านใน ใส่เข้าไปที่ช่องเก็บของข้างบน ถึงแม้ผู้ครอบครองจะยืนกรานทักท้วง รวมทั้งบอกชัดแจ้งว่ามีหมาอยู่ในกระเป๋าก็ตาม” “บุคลากรคนเดิมบอกให้ผู้โดยสารทำตามอย่างคำบัญชาบ่อยๆไม่ยินยอมเลิกรา จนกระทั่งในที่สุดผู้ครอบครองหมาจะต้องยอมทำตามอย่าง เมื่อเรือบินถึงจุดหมาย คุณกลับได้มาพบว่าความรู้ยเสียแล้ว คุณเศร้าใจจนกระทั่งยุบลงไปนั่งร้องไห้กับพื้นทางเท้าบนเครื่อง ฉันเองก็พลอยรู้สึกใจแตกสลายตามไปด้วย”
สล็อต
สื่อของสหรัฐอเมริกากล่าวว่า โดยธรรมดาช่องเก็บสัมภาระเหนือหัวบนเรือบินนั้น ไม่ถึงกับอยู่ในภาวะที่ปิดแน่นกระทั่งอากาศเข้าไปมิได้ แม้กระนั้นในกรณีนี้คาดว่าหมาตัวดังกล่าวมาแล้วข้างต้นคงจะขาดออกสิเจนจนตาย เพราะว่าอยู่ในที่อับอากาศนานเหลือเกิน ส่วนคนที่ทำหน้าที่ในการต้อนรับที่สั่งให้นำกระเป๋าใส่หมาเข้าไปเอาไว้ในช่องเก็บของดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นพูดว่า ตนไม่เคยรู้ว่ามีหมาอยู่ด้านใน
สล็อตออนไลน์
ผู้ครอบครองหมารับรองว่าได้ทำตามกฎข้อปฏิบัติของสายการบิน ประเด็นการนำสัตว์เลี้ยงเข้าไปในห้องโดยสารอย่างแม่นยำทุกอย่าง โดยใช้กระเป๋าสำหรับใส่หมาที่มีขนาดและก็ลักษณะตรงตามกำหนด รวมทั้งได้วางกระเป๋าดังที่กล่าวถึงแล้วไว้ใต้ที่นั่งข้างหน้าตลอดระยะเวลา
jumboslot
ด้านสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์แถลงว่า กำลังซักถามเหตุดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วอยู่ และก็ขอรับผิดต่อเหตุที่เกิดขึ้นอย่างเต็มเปี่ยม “สถานะการณ์นี้เป็นอุบัติเหตุที่น่าโศกเศร้าใจซึ่งไม่สมควรจะเกิดขึ้นตั้งแต่ต้น พวกเราขอรับไม่ถูกถูกใจอย่างเต็มเปี่ยมและก็ขอแสดงความเศร้าใจอย่างซาบซึ้งต่อครอบครัวผู้เสียหาย อีกทั้งจะให้การช่วยเหลือเกื้อหนุนพวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัย”